มูฮัมหมัด อาลี เจ้าของฉายา พริ้วไหวดั่งผีเสื้อ ต่อยเจ็บเหมือนผึ่ง

มูฮัมหมัด อาลี เจ้าของฉายา พริ้วไหวดั่งผีเสื้อ ต่อยเจ็บเหมือนผึ่ง อาลีขึ้นชกมวยครั้งแรกเมื่ออายุได้เพียง 12 ปี โดยมีครูฝึกเป็นตำรวจเชื้อสายไอริชชื่อ โจ มาร์ติน จุดประสงค์แรกก็คือให้อาลีใช้เป็นทักษะการต่อสู้เพื่อปกป้องจักรยานราคา 60 ดอลลาร์ของตนจากเด็กละแวกบ้านเดียวกัน

อาลีได้พัฒนาฝีมือการชกขึ้นเป็นลำดับจนกระทั่งคว้าแชมป์มวยสากลสมัครเล่นรุ่นไลท์เฮฟวี่เวทของเมืองหลุยส์วิลล์ จากนั้นได้ครองแชมป์ระดับภูมิภาคของชิคาโก ได้แชมป์มวยสากลสมัครเล่นแห่งชาติ

และประสบความสำเร็จสูงสุดจากการได้เหรียญทองในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวทในการแข่งขันโอลิมปิคที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี แต่การเดินทางด้วยเครื่องบินในครั้งนั้น อาลีกลัวเครื่องบินจะตกมาก ถึงขนาดสวมใส่เสื้อชูชีพไว้ตลอดการเดินทาง

หลังจากนั้นอาลีได้เดินทางกลับสหรัฐอเมริกาเยี่ยงวีรบุรุษ แต่เมื่อเขาได้เข้าไปที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งเพื่อที่จะเฉลิมฉลอง กลับถูกบริกรในร้านปฏิเสธเพราะมีข้อกำหนดว่าบริการเฉพาะคนขาวเท่านั้น

อาลีจึงตอบโต้ด้วยการเขวี้ยงเหรียญที่ได้รับลงแม่น้ำโอไฮโอเพื่อเป็นการประท้วง แต่เขากลับอ้างว่าไม่ได้เขวี้ยง แต่ลืมทิ้งไว้ไม่รู้หายไปไหน ซึ่งอีกหลายปีต่อมาในโอลิมปิคที่แอตแลนต้า ทางคณะกรรมการโอลิมปิคสากลได้มอบเหรียญรางวัลใหม่เพื่อเป็นเกียรติให้แก่เขา

อาลีได้ขึ้นชกมวยอาชีพครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 1960 โดยมีแองเจโล่ ดันดี เทรนเนอร์ชื่อดังระดับโลกเป็นผู้ฝึกสอน ซึ่งการชกภายใต้การควบคุมของดันดี ทำให้อาลีพัฒนาสไตล์การชกแตกต่างไปจากนักมวยในรุ่นเฮฟวี่เวทคนอื่น ๆ มาก

เพราะอาลีแม้จะเป็นมวยรุ่นใหญ่แต่สามารถเต้นฟุตเวิร์กได้ตลอดเวลาอย่างสวยงามและมีลีลาเหมือนมวยรุ่นเล็ก แต่ก็ยังปล่อยหมัดได้คมกริบและหนักหน่วง ถึงขนาดสามารถที่จะชกพร้อมกับเต้นถอยหลังได้ จึงทำให้อาลีได้รับนิยามว่า “โบยบินเหมือนผีเสื้อ ต่อยเจ็บเหมือนผึ้ง” (Float like a Butterfly, Sting Like a Bee) จุดนี้ทำให้อาลีนำพู่มาติดที่รองเท้าเป็นรายแรกยามที่พู่สะบัดก็จะยิ่งเพิ่มความงดงามให้กับการชกของตน