สิ้นลม “จอมยุทธเพียว” นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ อดีตนักมวยไทยผู้เป็นหนึ่งในตำนานอาวุธ “ไถนา” ต่อยอดจากแม่ไม้มวยไทย ที่กรรมการบ้าจี้ออกฏห้ามใช้จนถึงปัจจุบัน หลังจากล่าสุดถึงแก่กรรมจากไปด้วยโรคมะเร็งร้าย ด้วยวัยเพียง 48 ปี ทิ้งไว้เพียงเรื่องเล่าขาน ถึงความเก่งกาจในยุคที่ถือเป็น “ยุคทองของวงการมวยไทย” ช่วงระยะเวลา 30-40 กว่าปีที่ผ่านมา“เสี่ยบาส” สมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก มวยสามัครเล่นคนแรกของไทย หวนรำลึกถึงเพื่อนเก่า เมื่อครั้งชกมวยไทยสมัยที่ตนยังใช้ชื่อ”พิมพ์อรัญเล็ก ศิษย์อรัญ”ว่า“เราเคยชกกันครั้งหนึ่งที่เวทีมวยลุมพินี ย่านพระราม 4 ครั้งนั้นน้ำหนักตัวยังอยู่ในพิกัด 118 ปอนด์”
เจ้าของฉายา “ไม่ได้โม้” ฟื้นความหลังต่อว่า “ตอนนั้นนำขบวนเขาดังอยู่แล้ว เขาเป็นมวยในศึกวันทรงชัย ส่วนผมนั้นถึงฝีมือจะไม่เป็นรอง แต่ก็ถือว่าชื่อชั้นต้องยอมรับว่า ด้านชื่อเสียงยังไม่เท่าเขา เพราะผมเป็นมวยมาจากศึก ดาวรุ่งทีวี สีช่อง 7 ก่อนหน้านั้นนำขบวนกำลังจะชกกับ คฤหาสน์ ส.สุภาวรรณ ถ้าใครชนะจะต้องมาเจอกับผม ซึ่งผมแต่งตัวรออยู่ข้างล่าง (ข้างเวที) พอนำขบวนชนะ ผมก็ขึ้นเวทีไปจับมือประกบเป็นคู่ชกในไฟต์ต่อไปกันเลยทีเดียว เราชกกันมีเงินเดิมพันกันถึง 1.6 ล้านบาท ถือหางไว้ข้างละ 8 แสนบาทอีกด้วย”ส่วนผลการชก ฮีโร่โอลิมปิกในชื่อ “พิมพ์อรัญเล็ก ศิษย์อรัญ” (สมรักษ์ คำสิงห์) โชว์ลีลาแม่ไม้มวยไทย แก้ทางมวยอาวุธ”ไถนา”ลูกทีเด็ดของนำขบวนมาเป็นอย่างดี ครบ 5 ยก จึงได้รับการชูมือชนะคะแนนไปอย่างสนุกสมรักษ์ เล่าต่ออีกว่า “หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พบกันบนเวทีอีกเลย เลิกมวยแล้วจะมาเจอกันบ้างก็ตามงานกิจกรรมของพี่มาด (สามารถ พยัคฆ์อรุณ) ซึ่งเป็นนายกสมาคมกีฬามวยนายขนมต้ม ถ้าพูดถึงเจ้าเพียว (นำขบวน) เขาเป็นคนรักเพื่อนฝูง นิสัยดี เขามีร้านเนื้อย่างกะทะเวลาพวกเราไป เขาก็ต้อนรับเทคแคร์อย่างดี ผมเห็นธุรกิจของเขาไปได้สวยก็เลยหันมาลองทำบ้าง แม้จะไม่ได้เจอกันมานานพอควรช่วงหลัง แต่ล่าสุดเมื่อมีข่าวว่าเขาป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ผมก็ฝากเงินพี่มาดไปให้เขาหมื่นนึงแล้วโทรคุยกัน บอกเอาไว้ช่วยค่ายา เขาก็น้ำตาซึมๆเหมือนกันนะ…”
“ฝากถึงแฟนมวยนะครับ !! นำขบวน เขาถือเป็นมวยตำนานจอมไถนา เคยสร้างความสุขสร้างชื่อให้กับแฟนมวยมากมาย เขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตได้ดี ไม่มีเรื่องด่างพร้อยตลอดวิชาชีพการชกมวย เมื่อถึงเวลาเขาจากไป ก็ฝากช่วยไปร่วมงาน หรือส่งกำลังใจ ไว้อาลัยให้กับดวงวิญญาณของเขาด้วย”